การก่อสร้างและฟื้นฟูโครงสร้างเดิมจำเป็นต้องใช้เทคนิคต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของสิ่งปลูกสร้าง หนึ่งในเทคนิคที่ได้รับความนิยมและมีความสำคัญอย่างมากคือการเจาะเสียบเหล็ก ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้ในการติดตั้งเหล็กเสริมในโครงสร้างเก่าเพื่อเสริมแรงหรือเชื่อมต่อกับโครงสร้างใหม่ โดยใช้กาวอีพ็อกซี่ช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะให้แน่นขึ้น สารยึดเกาะโครงสร้างเป็นองค์ประกอบสำคัญของกระบวนการนี้ เพราะช่วยเพิ่มความแข็งแรงและป้องกันการแยกตัวของโครงสร้างในอนาคต กระบวนการนี้สามารถใช้ได้ในงานก่อสร้างอาคารสูง, ปรับปรุงอาคารเก่า, ปรับปรุงโครงสร้างสะพาน หรือแม้แต่โครงสร้างพื้นฐานที่ต้องการความแข็งแรงสูง
เจาะเสียบเหล็กคืออะไร?
การเจาะเสียบเหล็กคือ กระบวนการที่ใช้ในการปรับปรุงความแข็งแรงของโครงสร้างเดิม โดยการทำรูฝังเหล็กในพื้นและผนัง แล้ววางเหล็กลงในช่องเจาะ จากนั้นใช้กาวอีพ็อกซี่เสริมแรงหรือสารยึดเกาะชนิดพิเศษเพื่อช่วยให้เหล็กเส้นยึดแน่นกับคอนกรีต กระบวนการนี้เป็นที่นิยมในงานก่อสร้างและการฟื้นฟูอาคารเดิมที่ต้องการเพิ่มความสามารถในการรับแรงดึงหรือแรงเฉือนเพิ่มเติม
อุปกรณ์ที่ใช้ในการเจาะเสียบเหล็ก
ในการดำเนินงานเจาะเสียบเหล็กให้มีความมั่นคงและแข็งแรง จำเป็นต้องใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับประเภทของงาน เพื่อให้การเสริมโครงสร้าง การใช้สารยึดเกาะ และการเชื่อมต่อโครงสร้างเป็นไปอย่างแม่นยำและแข็งแรง
เครื่องสกัดคอนกรีต (Rotary Hammer / Core Drill)
เครื่องเจาะพื้นเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ที่ใช้สำหรับเจาะรูลงไปในกำแพงปูน เพื่อให้มีขนาดที่เหมาะสมกับเหล็กเส้นที่ต้องการเสียบ โดยสามารถแบ่งออกเป็น สองแบบสำคัญ ได้แก่ เครื่องเจาะกระแทก ใช้สำหรับการเจาะงานทั่วไป โดยใช้ดอกเจาะกำลังสูง ซึ่งให้ความเร็วและประสิทธิภาพและสามารถลดการเสียหายของโครงสร้าง และ เครื่องคอริ่งเจาะพื้น ใช้สำหรับงานเจาะโครงสร้างที่ซับซ้อน เหมาะสำหรับโครงสร้างที่ต้องรองรับแรงสูง
แท่งเหล็กเสริม (Rebar)
เหล็กเส้นเป็นหัวใจของงานโครงสร้างที่ใช้ในการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเสาคาน โดยต้องเลือกชนิดและความหนาของวัสดุเสริมโครงสร้างให้เข้ากับประเภทของโครงสร้าง โดยประเภทของเหล็กเส้นที่นิยมใช้ ได้แก่ เหล็กเรียบ มีพื้นผิวเกลี้ยง ใช้สำหรับโครงสร้างขนาดเล็ก เหล็กเสริมแรง มีพื้นผิวเป็นรอยนูน เพื่อเพิ่มความแข็งแรงกับโครงสร้างปูน เหมาะสำหรับเสาคานหลักของอาคาร และ เหล็กเสริมแบบพิเศษ ใช้สำหรับติดตั้งเครื่องจักร ข้อควรพิจารณาในการเลือกใช้เหล็กเส้น เช่น เส้นผ่านศูนย์กลางของเหล็กเส้น ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของโครงสร้าง ระดับความลึกของเหล็กที่ฝังตัว ควรมีระดับที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดแรงยึดเกาะที่ดี
กาวอีพ็อกซี่สำหรับยึดเหล็ก (Epoxy Anchoring Adhesive)
กาวโครงสร้าง Hilti เป็นกาวพิเศษที่ใช้ช่วยให้แท่งเหล็กเสริม เชื่อมเข้ากับโครงสร้าง กับเสาคาน โดยจะช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะ และทำให้แท่งเหล็กติดแน่น คุณสมบัติที่สำคัญของกาวอีพ็อกซี่สำหรับยึดเหล็ก ได้แก่ สามารถรับแรงดึงและแรงเฉือนได้ดี ทำให้ติดตั้งได้อย่างรวดเร็ว ทนต่อสารเคมีและความชื้น ป้องกันการกัดกร่อนของเหล็กเส้น
อุปกรณ์ฉีดกาวติดเหล็ก (Caulking Gun หรือ Injection Gun)
เครื่องมือสำหรับติดตั้ง ใช้สำหรับควบคุมปริมาณน้ำยาที่ใช้งาน โดยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตั้ง ไม่มากหรือน้อยเกินไป
ความสำคัญของน้ำยาเสียบเหล็ก
น้ำยาเสียบเหล็ก Hilti เป็นวัสดุประเภทกาวอีพ็อกซี่ชนิดพิเศษที่ใช้สำหรับช่วยยึดเหล็กเส้น หรือพุกเคมีให้ติดแน่นกับคอนกรีต โดยเพิ่มความแข็งแรงของระบบติดตั้ง ทำให้สามารถเสริมแรงให้เหล็กติดทนทานมากขึ้นกว่าการติดตั้งโดยใช้พุกกลทั่วไป
ความสำคัญของน้ำยาเสียบเหล็ก
สารยึดเกาะคุณภาพสูง เป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับการต่อเติมอาคาร โดยมีคุณสมบัติที่ช่วยเสริมความแข็งแรงและลดความเสี่ยงในการยึดติดของเหล็กเส้น
ช่วยให้เหล็กเสริมแน่นขึ้น
สารยึดเกาะพิเศษสามารถช่วยให้โครงสร้างเหล็ก ฝังตัวในโครงสร้างได้มั่นคง สามารถช่วยให้เหล็กไม่ขยับแม้รับแรงสูง
ทนต่อแรงดึงและแรงเฉือนสูง
น้ำยามีความแข็งแรงสูง สามารถช่วยรองรับแรงกระทำที่เกิดขึ้นจากการรับน้ำหนัก เช่น ในพื้นโครงสร้างขนาดใหญ่ เสาโครงสร้างหลัก คานโครงสร้าง และพื้นคอนกรีตหนา
ใช้งานง่ายและรวดเร็ว
ไม่ต้องรอเวลานานในการติดตั้ง สามารถติดตั้งโครงสร้างใหม่โดยไม่สะดุด มีความสามารถในการเซตตัวได้เร็ว ทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของงานติดตั้ง
ลดโอกาสเกิดสนิมและการเสื่อมสภาพ
น้ำยาเสียบเหล็กช่วยลดการกัดกร่อนจากสภาพแวดล้อม ซึ่งช่วยป้องกันเหล็กเสริมจากการเสื่อมสภาพ
ใช้งานได้แม้ในพื้นที่ที่ท้าทาย
รองรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิแปรปรวน หรือแม้แต่ในพื้นที่ที่น้ำท่วมถึง
ช่วยให้โครงสร้างมั่นคงแม้เจอแรงกระทำ
เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องเผชิญแรงจากการใช้งานหนัก เช่น โครงสร้างที่รับการสั่นสะเทือนจากยานพาหนะ, โครงสร้างสูงที่ต้องทนต่อแรงลม, งานติดตั้งเครื่องจักร
เสริมโครงสร้างที่มีอยู่ให้แข็งแรง สามารถช่วยให้พื้นหรือผนังคอนกรีตที่แตกร้าวแข็งแรงขึ้น หรือติดตั้งเหล็กเสริมใหม่ได้โดยไม่ต้องทำลายโครงสร้างเดิม
ตัวเลือกน้ำยาเสียบเหล็กที่เหมาะกับงานต่างๆ
น้ำยาเสียบเหล็กมีหลากหลายประเภท ซึ่งแตกต่างกันตามคุณสมบัติทางเคมี ความสามารถในการรับแรง และสถานที่ที่สามารถนำไปใช้งานได้ โดยแบ่งออกเป็น สามตัวเลือกที่เหมาะกับงานติดตั้ง ได้แก่
กาวอีพ็อกซี่พิเศษ
เป็นน้ำยาเสียบเหล็กที่มีแรงยึดเกาะสูงสุดในบรรดาน้ำยาทั้งหมด โดยเป็นสารประเภท ระบบสองส่วน (Two-component system) คือ เรซิ่น (Resin) และ สารเร่งปฏิกิริยา (Hardener) ซึ่งใช้เวลาในการแข็งตัวนานกว่าประเภทอื่น แต่มีความทนทานระดับสูง จึงเหมาะสำหรับงานที่ต้องรับแรงดึงและแรงเฉือนสูง จุดเด่นคือ แรงยึดเกาะสูงมาก สามารถรองรับแรงกระแทกได้อย่างยอดเยี่ยม เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรงสูงสุด เช่น ตึกระฟ้า, สะพาน, อุโมงค์ ยังสามารถใช้งานได้ในสภาพอากาศร้อนจัด และมีความแข็งแรงทนทาน ต่อสภาพแวดล้อมรุนแรง, พื้นที่เปียก และการกัดกร่อน ข้อจำกัดคือใช้เวลาในการเซตตัวนาน ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของพื้นที่ใช้งาน อีกทั้งมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า
Polyester Resin
เป็นกาวติดเหล็กที่แห้งตัวเร็ว ใช้งานง่าย และเหมาะกับงานปรับปรุงโครงสร้างทั่วไป มีแรงยึดเกาะระดับมาตรฐาน และใช้ในงานทั่วไปที่ไม่ต้องเสริมความแข็งแรงมากนัก ข้อดีคือเซตตัวไว สามารถใช้งานได้ภายในเวลาไม่นาน ไม่ต้องการอุปกรณ์พิเศษ ไม่ต้องใช้สารเร่งพิเศษ และยังมีต้นทุนต่ำ
Vinylester Resin
เป็นตัวเลือกที่มีความยืดหยุ่นสูง โดยมีความยืดหยุ่นสูงกว่าน้ำยา Epoxy และทนต่อสารเคมีได้ดี ใช้ในโครงการที่ต้องการความยืดหยุ่นในการใช้งาน จุดเด่นคือ มีคุณสมบัติในการต้านสารเคมีเป็นพิเศษ มีความสามารถในการรับแรงขยายตัว และช่วยเสริมแรงโครงสร้าง สามารถเหมาะกับพื้นที่ที่มีน้ำหรือความชื้น
สรุป
การเจาะเสียบเหล็ก เป็นวิธีการที่ช่วยให้โครงสร้างแข็งแรงขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยของอาคารในระยะยาว ส่วนสารยึดเกาะโครงสร้าง เป็นองค์ประกอบหลักที่ช่วยให้เหล็กเส้นยึดติดกับคอนกรีตได้ดีขึ้น โดยการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม จะช่วยให้งานก่อสร้างเป็นไปตามมาตรฐาน เมื่อมีการเจาะเสียบเหล็ก ควรมีการตรวจสอบคุณภาพของน้ำยาที่ใช้ เพื่อให้ได้งานที่มีความแข็งแรง และรองรับแรงได้ดียิ่งขึ้น